เปิดตัว Infinix NOTE 40 Series ชิปแรง ชาร์จไว สมาร์ทโฟนราคาโดนใจ
เปิดตัว Infinix NOTE 40 Pro 4G และ NOTE 40 Pro+ 5G
Infinix NOTE 40 Pro 4G และ NOTE 40 Pro+ 5G มากับสเปคและดีไซน์ที่โขกกันมาเหมือนกันเกือบ 100% โดยตัวเครื่องของรุ่น 4G ที่มากับไซส์ที่เหลือบ ๆ กันนิดหน่อย (รุ่น Pro 4G: 164.4 x 74.6 x 7.8 มม. / รุ่น Pro+ 5G: 164.3 x 74.5 x 8.1 มม.) รองรับมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP54
และไฮไลต์ที่จะได้ทุกรุ่นในรอบนี้ คือไฟแฟลช AI LED ที่มีชื่อว่า Halo Light ที่นอกจากจะทำหน้าที่เป็นไฟแฟลชแบบวงแหวนสำหรับถ่ายรูปแล้ว ยังมีระบบ Active Halo ที่เปลี่ยนสีไฟไปตามการใช้งานต่าง ๆ ได้ เช่น เปลี่ยนสีเมื่อมีการแจ้งเตือน หรือโทรเข้าโทรออก หรือแม้กระทั่งในขณะเล่นเกม หรือฟังเพลง
จอแสดงผลของรุ่นนี้ก็แชร์พาเนลตัวเดียวกัน ได้จอกระจกโค้ง 3D กระจก Gorilla Glass ใช้พาเนล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2436 พิกเซล) รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz พร้อมการันตีปล่อยแสงสีฟ้าต่ำจาก TUV Rheinland รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และยังมากับลำโพงคู่ที่ปรับจูนเสียงโดย JBL ทุกรุ่นด้วย
ด้านพลังการประมวลผล รุ่น NOTE 40 Pro+ 5G จะได้ใช้ชิปเซต Dimensity 7020 รองรับ 5G ส่วนรุ่น NOTE Pro 4G จะได้เป็นชิป Helio G99 Ultimate สำหรับระบบการชาร์จนั้น Infinix NOTE 40 Pro 4G ให้ระบบชาร์จไวผ่านสายมาที่ 70W ส่วนรุ่นท็อปสุด NOTE 40 Pro+ 5G จะรองรับชาร์จไวผ่านสาย 100W ชาร์จจาก 1 – 50% ใช้เวลาเพียง 8 นาทีเท่านั้น
ตัวซอฟต์แวร์ติดตั้งมากับ XOS 14 บนพื้นฐาน Android 14 พร้อมการันตีอัปเดต OS ให้ 2 ปี + แพตช์รักษาความปลอดภัย 3 ปี ตัวเครื่องทุกรุ่นมี IR-Blaster และ NFC มาให้ทุกรุ่น
สเปคตัวเครื่อง
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2436
- รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz
- จอกระจก Gorilla Glass แบบโค้ง 3D 55 องศา
- รองรับความสว่างสูงสุด 1,300 nits
- ไฟแฟลช Halo Light มีระบบ Active Halo เปลี่ยนสีไฟไปตามการใช้งานต่าง ๆ
- เทคโนโลยี AllRound FastCharge 2.0
- ชิป Cheetah X1 ควบคุมการจ่ายพลังงาน
- มี Bypass Charging 2.0 ช่วยกรองกระแสไฟป้องกันความร้อนไม่ให้สูงเกินไป
- ฟังก์ชัน Reverse Charging ชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายได้สูงสุด 10W
- ลำโพงพัฒนาร่วมมือกับ JBL
- มาตรฐานกันน้ำ และกันฝุ่น IP53
- รองรับ 5G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 5.3
- สตอเรจแบบ UFS 2.2 ความจุ 256GB
- ระบบปฏิบัติติการ XOS 14 บนพื้นฐาน Android 14
- กล้องหลังความละเอียด 108MP + 2MP (Depth) + 2MP (Macro) f1.8
- กล้องหน้าความละเอียด 32MP f2.2
- ไฟแฟลชแบบ Dual LED
- ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
สเปคที่มีเฉพาะ NOTE 40 Pro
- ชิป MediaTek Helio G99 Ultimate
- แรม 8GB, 12GB
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh
- รองรับการชาร์จเร็วได้ 70W
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Titan Gold (ทอง) และ Vintage Green (เขียว)
สเปคที่มีเฉพาะ NOTE 40Pro+ 5G
- ชิป MediaTek DIMENSITY 7020 5G เทคโนโลยีการผลิต 6nm
- แรม 12GB
- แบตเตอรี่ 4,600 mAh
- รองรับชาร์จไว 100W
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Obsidian Black (ดำ) และ Vintage Green (เขียว)
Infinix NOTE 40 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับอุปกรณ์การชาร์จไร้สาย MagCase และ MagPad เริ่มวางจำหน่าย 30 เมษายนนี้เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น
ราคา และโปรโมชั่น
Infinix NOTE 40 Pro 4G และ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G จะวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2024 เป็นต้นไป โดยราคา รุ่นความจุ และสีที่มีวางจำหน่ายมีดังนี้
- Infinix NOTE 40 Pro 4G (8GB + 256GB) ราคา 8,999 บาท *เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น
- สีเขียวหนังวีแกน Vintage Green
- สีทอง – ฟ้า Titan Gold
- Infinix NOTE 40 Pro+ 5G (12GB + 256GB) ราคา 11,999 บาท
- สีเขียวหนังวีแกน Vintage Green
- สีดำ Obsidian Black
โปรโมชั่น
- Infinix NOTE 40 Pro 4G
- เมื่อซื้อในช่วงวันที่ 30 เมษายน 2024 ใช้คูปองจากแพลตฟอร์มลดค่าเครื่องเหลือเพียง 6,999 บาท
- รับเคส MagCase ตามสีตัวเครื่อง + ที่ชาร์จไร้สายทุกคำสั่งซื้อ
- Infinix NOTE 40 Pro+ 5G
- เมื่อซื้อในช่วงวันที่ 30 เมษายน 2024 ใช้คูปองจากแพลตฟอร์มลดค่าเครื่องเหลือเพียง 10,999 บาท
- รับเคส Premium Gift Box ลำโพงบลูทูธ + แก้วน้ำ + MagCase ตามสีตัวเครื่อง + ที่ชาร์จไร้สาย เฉพาะ 450 คำสั่งซื้อแรก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น